“น้องๆมีผลทดสอบภาษาอังกฤษกันหรือยังค่ะ เช่นพวก IELTS, TOEFL…. กันหรือยังค่ะ”
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับการทดสอบพวกนี้กันดีกว่าค่ะ ว่า IELTS และ TOEFL และ TOEIC แต่ละตัวต่างกันตรงไหน และน้องๆควรจะเลือกสอบแบบไหนดีถึงจะเหมาะสมกับเราที่สุด
น้องๆที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ น้องๆอาจจะเจอคำถามยอดฮิตว่า
“น้องๆมีผลทดสอบภาษาอังกฤษกันหรือยังค่ะ เช่นพวก IELTS, TOEFL…. กันหรือยังค่ะ”
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับการทดสอบพวกนี้กันดีกว่าค่ะ ว่า IELTS และ TOEFL และ TOEIC แต่ละตัวต่างกันตรงไหน และน้องๆควรจะเลือกสอบแบบไหนดีถึงจะเหมาะสมกับเราที่สุด
เรามาเริ่มกันที่ IELTS กันดีกว่านะคะ
“IELTS” ย่อมาจาก “International English Language Teaching System” – IELTS จะเป็นการวัดผลทางด้านภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อในต่างประเทศ และจะเป็นที่นิยมสำหรับนักเรียนที่จะไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย และประเทศอังกฤษ และ IELTS จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ
1. Academic Module : จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อในระดับประกาศนียบัตรและระดับอุดมศึกษา ในต่างประเทศ หรือหลักสูตร International (นานาชาติ)ในมหาวิทยาลัยบางแห่งในประเทศไทย
2. General Module : จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สมัครงาน ขอ Work permit เป็นต้น
ข้อสอบของ IELTS จะ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน คือ
1.Listening Part
2.Reading Part
3.Writing Part
4.Speaking Part
**** ซึ่งทั้งสอง Module จะแตกต่างกันตรง ตัวข้อสอบในส่วนของ Reading Part และ Writing Part แต่ตัวข้อสอบในส่วนของ Listening Part และ Speaking Part จะเป็นข้อสอบชุดเดียวกันทั้งการสอบแบบ Academic Module และ General Module ****
ที่นี้เรามาดูกันว่าในแต่ละ Part ของข้อสอบนั้นมีอะไรกันบาง ซึ่งเวลาในการทำข้อสอบนั้นคือ 3 ชั่วโมง
ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่ต้องการยื่นวีซ่าเพื่อการศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร(ประเทศอังกฤษ) ประเภท Tier 1, Tier 2, Tier 4, A1, B1 จะมีการสอบ IELTS ที่ชื่อว่า “IELTS for UKVI” (SELT Test) เพิ่มขึ้นมา พี่จะอธิบายคราวๆในภาพรวมนะคะ แล้วเดียวในบทความถัดไป พี่จะมาลงรายละเอียดเกี่ยวกับ IELTS for UKVI ค่ะ
มาถึงตรงนี้น้องๆคงงงว่า “IELTS for UKVI มันต่างกับ IELTS แบบปกติ ตรงไหนคะพี่”
มันต่างกันอยู่ 3 จุดใหญ่ๆ คือ
1. มาตรการการคุมสอบ – สนามสอบนั้นจะต้องผ่านมาตรฐาน SELT (Secure English Language) ของกองวีซ่าและการตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหราชอาณาจักร(UKVI) จึงจะสามารถทำการทดสอบ IELTS for UKVI ซึ่งในตอนนี้ประเทศไทยมีอยู่ 2 แห่ง คือ ของ British Council และ IDP เฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้น
2. ค่าสมัครสอบ – ซึ่งการสอบ IELTS for UKVI จะอยู่ที่ 9,860 บาท ซึ่ง IELTS ปกติจะอยู่ที่ 6,440 บาท(ราคา update ณ. 7 กันยายน 2559)
3. ในใบรายงานผล (IELTS test report) จะมีเพิ่มขึ้นมา 2 ส่วนคือ
– UKVI Number
– Certificate Level
หลักเกณฑ์การให้คะแนน
คะแนนสอบของ IELTS จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน (Listening, Reading, Writing and Speaking.และการให้คะแนน IELTS คะแนนต่ำสุดคือ 0.0 และคะแนนสูงสุดคือ 9.0 ซึ่งจะมีคะแนนครึ่ง band 0.5 ด้วย
ค่าใช้จ่ายในการสอบ เอกสารที่ใช้สมัครสอบ รวมถึงตารางสอบ และ สถานที่สอบ
ในประเทศไทยผู้ให้บริการสอบ IELTS จะมี 2 แห่งหลักๆคือ British Council และ IDP ซึ่งน้องๆสามารถเช็คข้อมูลต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการสอบ ตารางสอบ และ สถานที่สอบ ได้จาก website ของทั้งสองที่นะคะ
สำหรับน้องๆ ที่สอบในประเทศไทย (Thailand)
www.britishcouncil.or.th/exam/ielts/dates-fees-locations – สำหรับ IELTS แบบปกติ
www.britishcouncil.or.th/exam/ielts-uk-visa-immigration – สำหรับ IELTS for UKVI
สำหรับน้องๆ ที่สอบในประเทศออสเตรเลีย (Australia)
https://ielts.com.au/get-ielts-help/find-test-centre/ – สำหรับหาศูนย์สอบ IELTS ค่ะ
หากน้องๆ มีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องการสอบ IELTS และการเรียนต่อต่างประเทศในประเทศชั้นนำต่างๆ น้องๆสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
บริษัทเอส แอนด์ เค อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเคชั่นจำกัด
138/1 อาคารไอดีโอ สาทร-ตากสิน ถนน กรุงธนบุรี
แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน จังหวัดกรุงเทพฯ 10600
โทร : 024645177
มือถือ : 081 816 6606, 089 799 0093
แฟกซ์ : 02 464 5178
**** ในบทความหน้า พี่จะมาอธิบายในส่วนของ IELTS for UKVI นะคะ ****
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
British Council, IDP
กระทู้ใน Pantip ของคุณ บุรุษฟ้าประทาน และรูปภาพประกอบจาก Internet นะคะ