คำว่า “เรียนต่อ” ภาษาอังกฤษพูดว่า Study Abroad และการเรียนต่างประเทศเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่หลายคนสนใจ และยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคต เพราะนอกจากจะได้พัฒนาทักษะและศักยภาพทางภาษาอย่างก้าวกระโดดแล้ว ยังได้เจอกับเพื่อนชาวต่างชาติ และประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างแดนที่ไม่สามารถหาได้จากการเรียนในประเทศ ทั้งนี้ หลายคนอาจยังไม่ทราบหรือไม่แน่ใจว่าจะเรียนต่อที่ประเทศไหนดี วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับหลักสูตรการเรียนและ 5 ประเทศยอดนิยมที่เหมาะสำหรับการเรียนต่อภาษาอังกฤษ
อันดับแรก เรามาทำความรู้จักกับหลักสูตรภาษาอังกฤษที่เป็นที่นิยมกันก่อน
หลักสูตรภาษาอังกฤษที่เปิดสอนในต่างประเทศ
ก่อนจะตัดสินใจว่าเรียนต่อภาษาอังกฤษประเทศไหนดี สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ ประเภทของหลักสูตรที่มีให้เลือก เพราะแต่ละหลักสูตรมีจุดเด่นและวัตถุประสงค์การเรียนที่แตกต่างกัน
1. General English (ภาษาอังกฤษทั่วไป)
หลักสูตรนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นเรียน ซึ่งเน้นการพัฒนาทักษะพื้นฐานทั้ง 4 ด้านคือ การฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยจะเรียนรู้การใช้ภาษาในสถานการณ์ประจำวันต่าง ๆ เช่น การทักทาย การสนทนาในร้านอาหาร การซื้อของ การเดินทาง และการพูดคุยกับเพื่อนใหม่ จึงเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ และพัฒนาต่อไปในระดับสูงขึ้นโดยเริ่มตั้งแต่ระดับ Elementary ไปจนถึงระดับ Advanced
2. Academic English (ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ)
เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการสอน หลักสูตรนี้จะเน้นทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนในระดับอุดมศึกษา เช่น การเขียนเรียงความเชิงวิชาการ การนำเสนอผลงาน การจดบันทึกการบรรยาย การอ่านบทความวิชาการ และการเขียนรายงาน นอกจากนี้ บางหลักสูตรยังมีการสอนเทคนิคการทำวิจัยและการอ้างอิงผลงานทางวิชาการอย่างถูกต้อง
3. Business English (ภาษาอังกฤษธุรกิจ)
หลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน โดยมีเนื้อหาครอบคลุมการสื่อสารในบริบทธุรกิจ เช่น การเขียนอีเมลธุรกิจ การประชุม การนำเสนองาน การเจรจาต่อรอง และการสัมภาษณ์งาน ซึ่งผู้เรียนจะได้เรียนรู้คำศัพท์เฉพาะทางธุรกิจ มารยาทในการสื่อสาร รวมไปถึงวัฒนธรรมการทำงานในองค์กรนานาชาติอีกด้วย
5 ประเทศยอดนิยมสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ
1. สหราชอาณาจักร (United Kingdom: UK)
หากพูดถึงการเรียนต่อภาษาอังกฤษ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเรียนต่อ UK หรือสหราชอาณาจักรเป็นจุดมุ่งหมายแรกของหลาย ๆ คน ซึ่งประกอบด้วย 4 ประเทศ คือ อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งกำเนิดภาษาอังกฤษแล้ว การเรียนที่นี่ยังเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบบริติชที่เป็นต้นฉบับ นอกจากนี้ การเรียนต่ออังกฤษยังมาพร้อมโอกาสได้ศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง มหาวิทยาลัย Oxford หรือ Cambridge และอีกมากมาย
ข้อดีของการเรียนต่อที่ UK
- สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง ด้วยคณาจารย์ที่เป็นเจ้าของภาษาและมีประสบการณ์
- ได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา
- แหล่งท่องเที่ยวมากมายทางด้านศิลปะ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ทั้งยังเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านกีฬาฟุตบอล เช่นในเมือง Liverpool, Manchester หรือ Leicester
2. สหรัฐอเมริกา (United States: US)
สหรัฐอเมริกาเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลก มีมหาวิทยาลัยและโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพ อีกทั้งรัฐต่าง ๆ ทั้ง 50 รัฐยังมีความเป็นเอกลักษณ์ ให้ประสบการณ์ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มีสีสัน นอกจากนี้ สำเนียงการพูดยังเป็นสำเนียงที่ฟังง่ายและเป็นที่คุ้นเคยกันดี จึงไม่น่าแปลกใจที่อเมริกาจะเป็นหนึ่งในประเทศยอดฮิตสำหรับการเรียนต่อ
ข้อดีของการเรียนต่อที่ USA
- มีสถาบันสอนภาษาให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โรงเรียนขนาดเล็กไปจนถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ
- แต่ละเมืองมีเอกลักษณ์และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถเลือกสถานที่เรียนที่เหมาะกับความชอบและงบประมาณได้
- สามารถทำงาน Part-time ระหว่างเรียนตามเงื่อนไขของวีซ่า
- มีวัฒนธรรมที่หลากหลายเชื้อชาติปะปนกัน
3. ออสเตรเลีย (Australia)
การเรียนต่อออสเตรเลียมักเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเด็กนักเรียนไทยส่วนใหญ่ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมาก ค่าใช้จ่ายไม่สูงอีกทั้งยังมี สภาพภูมิอากาศดีไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป และที่สำคัญคือ มีคุณภาพการศึกษาที่ได้มาตรฐานสากล โดยออสเตรเลียมีโรงเรียนสอนภาษาและมหาวิทยาลัยชั้นนำติดอันดับโลก เมืองที่มีสถาบันการศึกษาที่ติดอันดับยอดนิยมและเป็นที่ที่นักเรียนชาวไทยมักเลือกไปเรียน ได้แก่ ซิดนีย์ (Sydney), เมลเบิร์น (Melbourne), บริสเบน (Brisbane) และโกลด์โคสต์ (Gold Coast) ซึ่งแต่ละเมืองก็มีเอกลักษณ์ที่น่าหลงใหลไม่ซ้ำกัน
ข้อดีของการเรียนที่ออสเตรเลีย
- อยู่ใกล้กับประเทศไทย จึงเดินทางไป-กลับได้ง่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย
- นักเรียนสามารถทำงาน Part-time ได้ถึง 48 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์
- ค่าครองชีพไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา
- มีชุมชนคนไทยขนาดใหญ่ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุน ทำให้ปรับตัวได้ง่าย
- มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย
4. นิวซีแลนด์ (New Zealand)
นิวซีแลนด์ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามทั้งยังถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ปลอดภัยอันดับต้นๆ ของโลกจากองค์กรนานาชาติมากมาย การเรียนต่อนิวซีแลนด์จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยในส่วนของการเรียนต่อภาษาอังกฤษ นิวซีแลนด์นั้นใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ อีกทั้งระบบการศึกษาของประเทศยังเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ ผู้คนที่นี่ยังเป็นมิตร และยินดีในการช่วยเหลือดูแลนักศึกษาต่างชาติอีกด้วย
ข้อดีของการเรียนที่นิวซีแลนด์
- ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร
- ระบบการศึกษาใช้หลักสูตรเดียวกับประเทศอังกฤษ จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพการศึกษา
- เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง รัฐบาลมีการดูแลอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะนักเรียนต่างชาติ
- ภูมิทัศน์ที่สวยงามรอบๆ เมืองและประเทศ สามารถท่องเที่ยวในประเทศได้ตลอดทั้งปี
- มีระบบสาธารณูปโภคที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ
5. สิงคโปร์ (Singapore)
สิงคโปร์เป็นประเทศที่อยู่ใกล้ประเทศไทยที่สุดในบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ มีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ และเป็นประเทศในเอเชียที่มีการศึกษาติดอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งสิงคโปร์มีความเป็นนานาชาติสูง โดยมีประชากรกว่า 40% เป็นชาวต่างชาติ เรียนต่อสิงคโปร์จึงไม่ได้ช่วยแค่พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ แต่เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่หลากหลาย นักเรียนไทยสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรม เพื่อนต่างชาติ และอาหารการกินได้ไม่ยาก แถมยังไม่ต้องเดินทางไปไกลจากไทย ที่พักดี เมืองสะอาดและปลอดภัย
ข้อดีของการเรียนที่สิงคโปร์
- อยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด จึงเดินทางสะดวกและมีเวลาต่างจากไทย 1 ชั่วโมงเท่านั้น
- มีระบบการเรียนการสอนตามมาตรฐานสากลระดับโลก
- สิงคโปร์มีความเป็นนานาชาติสูง โดยมีประชากรกว่า 40% เป็นชาวต่างชาติ ทำให้ได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่หลากหลาย
- มีความปลอดภัยสูง ระบบขนส่งสาธารณะมีประสิทธิภาพ
ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเรียนต่อต่างประเทศ
สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเรียนต่อภาษาอังกฤษในต่างประเทศ การเลือกประเทศปลายทางถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุด เพราะจะส่งผลต่อทั้งประสบการณ์การเรียนรู้และการใช้ชีวิต ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกประเทศที่จะไปเรียน มีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ควรพิจารณา ดังนี้
-
งบประมาณและค่าใช้จ่าย
การวางแผนด้านการเงินเป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร ค่าที่พักและค่าครองชีพ ค่าประกันสุขภาพ ค่าเดินทางไป-กลับและค่าเดินทางในประเทศ ค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมนอกหลักสูตรและท่องเที่ยว
-
ระยะเวลาและช่วงเวลาที่เหมาะสม
ควรพิจารณาว่าต้องการเรียนนานเท่าไร และช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมที่จะไปเรียนต่อ โดยคำนึงถึงฤดูกาลและสภาพอากาศของแต่ละประเทศ ช่วงเปิด-ปิดเทอมของหลักสูตร การเริ่มต้นของภาคการศึกษาหากมีการวางแผนจะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมถึงระยะเวลาที่เหมาะกับเป้าหมายการพัฒนาภาษา
-
สภาพแวดล้อมและวัฒนธรรม
การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในการเรียน ดังนั้นจึงควรพิจารณาถึงความคล้ายคลึงหรือแตกต่างทางวัฒนธรรม ชุมชนคนไทยในพื้นที่ ความปลอดภัยของประเทศและเมืองที่จะไปเรียน ระบบขนส่งสาธารณะและการเดินทาง
-
โอกาสการทำงานระหว่างเรียน
มีหลายประเทศที่อนุญาตให้นักเรียนทำงาน Part-time ระหว่างเรียนได้ ซึ่งเป็นโอกาสดีในการหาประสบการณ์และฝึกภาษาเพิ่มเติมระหว่างเรียน พร้อมได้ฝึกใช้ภาษาในสถานการณ์จริง รวมถึงเรียนรู้วัฒนธรรมการทำงานของต่างประเทศ
แน่นอนว่าการตัดสินใจเรียนต่อภาษาอังกฤษในต่างประเทศเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคต ซึ่งแต่ละประเทศมีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกัน การเลือกประเทศและหลักสูตรที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ทั้งงบประมาณ ระยะเวลา เป้าหมายการเรียน และความชอบส่วนตัว
หากต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนต่อภาษาอังกฤษ สามารถติดต่อ S&K International Education เรายินดีให้คำแนะนำการเลือกประเทศ หลักสูตร และสถาบันที่เหมาะกับคุณ พร้อมดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อ โทร.: (66)2-464-5177, (66)81-816-6606 หรือ (66)89-799-0093